ภาษีมรดก คืออะไรและใครบังคับชำระ?
Key Takeaways
- ภาษีมรดกเก็บจากผู้รับมรดกเมื่อมูลค่ามรดกรวมเกิน 100 ล้านบาท
- ฐานภาษีรวมทรัพย์สินทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น ที่ดิน บ้าน เงินฝาก ยานพาหนะ หลักทรัพย์
- อัตราภาษี: 5% สำหรับบิดา/มารดา/ลูก/คู่สมรส; 10% สำหรับผู้รับที่ไม่ใช่ญาติ
- ต้องยื่นแบบภาษีภายใน 120 วันหลังได้รับมรดก; ล่าช้าจะมีค่าปรับและดอกเบี้ย
- มีการยกเว้นภาษีบางกรณี เช่น มรดกที่โอนก่อนกฎหมายบังคับใช้ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ/รัฐ
- ผ่อนชำระภาษีได้สูงสุด 5 ปี; ชำระภายใน 2 ปีแรกจะไม่เสียดอกเบี้ย
- สามารถวางแผนมรดกเพื่อประหยัดภาษี เช่น แบ่งมรดก หรือโอนทรัพย์สินช่วงชีวิต
ภาษีมรดก คืออะไร และใครบังคับชำระ. บทความนี้ สรุป หลักการ ภาษีมรดก และ ผลกระทบ ต่อ ผู้รับ มรดก. ผม จะ อธิบาย ใคร ต้อง เสีย และ กรอบ เวลา ยื่น. อ่าน ต่อ ไป เพื่อ เข้าใจ วิธี คำนวณ และ ข้อ ยกเว้น. บทความ นี้ ยัง ให้ ตัวอย่าง และ ขั้น ตอน ยื่น ภาษี ที่ ถูก ต้อง. ติดตามอ่าน เพื่อ เติบโต ทาง การเงิน และ ปลอดภาระ.
ภาษีมรดก คืออะไรและใครบังคับชำระ?
ภาษีมรดก คืออะไร?
ภาษีมรดก คือ ภาษีที่เก็บจากผู้รับมรดกเมื่อทรัพย์สินที่ได้รับมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ภาษีนี้จะเรียกเก็บจากมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้รับมรดก รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ เงินฝาก ต่อภาษีรถยนต์และทรัพย์สินทางการเงินอื่น ๆ รวมถึง ภาษีคริปโต ภาษีมรดกมีข้อบังคับตามกฎหมายที่กรมสรรพากรกำหนดให้ปฏิบัติตาม
โดยอัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายและผู้รับมรดก ผู้รับที่เป็นบิดามารดา ลูก หรือคู่สมรสจะจ่ายภาษี 5% ส่วนผู้รับที่ไม่ใช่ญาติจะต้องจ่ายภาษี 10% ผู้ที่ได้รับมรดกต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีภายใน 120 วัน นับจากวันที่ได้รับมรดก หากล่าช้าอาจถูกเพิ่มเงินและมีเบี้ยปรับ
การยื่นภาษีมรดกไม่เต็มจำนวนหรือหลีกเลี่ยงการชำระจะมีบทลงโทษตามกฎหมาย เช่น ปรับหรือจำคุก เพื่อรักษาความยุติธรรมและป้องกันการเสียภาษีไม่ถูกต้อง
ภาษีมรดก ทำไมจึงสำคัญต่อการวางแผนทรัพย์สิน?
ภาษีมรดกสำคัญมากเพราะเปลี่ยนแปลงมูลค่าทรัพย์สินที่ผู้รับมรดกจะได้รับจริง ก่อนรับมรดก คุณควรวางแผนภาษีเพื่อ ลดหย่อนภาษีและป้องกันข้อผิดพลาดในการยื่นภาษี เช่น การแยกประเภททรัพย์สินเพื่อขอรับการยกเว้นตามกฎหมาย หรือการโอนทรัพย์สินบางส่วนก่อนเสียชีวิต หรือพิจารณา ประกันลดหย่อนภาษีและประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี
ถ้าไม่วางแผนอย่างดี อาจทำให้ผู้รับมรดกต้องจ่ายภาษีมหาศาล หรือเกิดปัญหาทางกฎหมาย เช่น ค้างชำระภาษีและถูกฟ้องร้อง ภาษีมรดกมีผลต่อความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวหลังการตาย
ผู้รับมรดกมีสิทธิ์ผ่อนชำระภาษีนานสูงสุด 5 ปี หากชำระหมดใน 2 ปีแรก จะได้รับยกเว้นดอกเบี้ย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะสั้นและให้เวลามากขึ้นสำหรับการจัดการทรัพย์สิน
จึงเห็นได้ว่า ภาษีมรดก ไม่ใช่แค่ภาษีธรรมดา แต่เป็นส่วนสำคัญที่ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอนของการจัดการมรดก เพื่อรักษาสิทธิและทรัพย์สินของผู้รับอย่างเต็มที่ที่สุด
ภาษีมรดก คืออะไรและใครบังคับชำระ?
ภาษีมรดก คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากผู้รับมรดกเมื่อต้องรับมรดกที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยผู้รับมรดกอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือภาษีนิติบุคคลก็ได้ ข้อบังคับนี้ใช้ทั้งกับผู้ที่เป็นคนไทยและต่างชาติ หากทรัพย์สินอยู่ในประเทศไทยหรือผู้รับมรดกอยู่ในไทยก็ต้องเสียภาษีนี้
ใครบังคับชำระภาษีมรดก
ผู้รับมรดกเป็นผู้ต้องชำระภาษีนี้เอง โดยกฎหมายกำหนดให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมรดกภายใน 120 วันหลังจากได้รับมรดก หากยื่นล่าช้าจะโดนค่าปรับและเงินเพิ่มตามกฎหมาย บทลงโทษหากไม่ชำระภาษีหรือยื่นข้อมูลไม่ครบมีทั้งการปรับเงินและจำคุกด้วย
ผมอยากเน้นว่า ภาษีมรดกนั้นมีอัตราภาษีที่แตกต่างตามความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับมรดกกับผู้ตาย เช่น
- ผู้รับที่เป็นบิดามารดาหรือบุตร ต้องเสียภาษี 5%
- ผู้รับที่ไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดต้องเสียภาษี 10%
ภาษีนี้ครอบคลุมทรัพย์สินหลายประเภท เช่น อสังหาริมทรัพย์ เงินสด ยานพาหนะ และสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ หากคุณได้รับทรัพย์สินมูลค่าสูงเกินกว่ากำหนด ควรคิดเรื่องการยื่นภาษีให้ถูกต้องทันเวลาเพื่อเลี่ยงค่าปรับ และสามารถวางแผนภาษีให้ได้ผลดีได้ เช่น แบ่งมรดกหรือย้ายประเภททรัพย์สินก่อนวันมรณะ เพื่อใช้สิทธิยกเว้นบางอย่างตามกฎหมาย
การจ่ายภาษีมรดกสามารถผ่อนชำระได้สูงสุด 5 ปี โดยถ้าชำระหมดใน 2 ปีแรก จะได้รับยกเว้นดอกเบี้ยด้วย ถือเป็นวิธีที่ช่วยลดภาระเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียวได้
หากคุณยังสงสัยเรื่องภาษีและกฎหมายนี้ ผมแนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อช่วยวางแผนและจัดการเรื่องภาษีมรดกอย่างเหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้คุณไม่ประสบปัญหาภาระภาษีเกินควรในอนาคตครับ
ภาษีมรดก กับอสังหาริมทรัพย์และภาษีมรดก ที่ดิน?
(ต่อในส่วนถัดไป)
ภาษีมรดก ใครบ้างต้องชำระและมีเงื่อนไขอย่างไร?
ภาษีมรดก ใครถือว่าเป็นผู้รับมรดกที่ต้องเสียภาษี?
ถามว่า ใครบ้างที่ต้องจ่ายภาษีมรดก คำตอบคือ ผู้รับมรดกที่ได้รับทรัพย์สินมูลค่ารวมเกิน 100 ล้านบาท ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย ภาษีมรดกจะเก็บจากมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นเงินสด อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ หรือหลักทรัพย์ต่างๆ ก็ตาม
ผู้รับมรดกได้แก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่ได้รับมรดกในประเทศไทย หรือมีทรัพย์สินในไทยที่ถูกโอนให้ ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หากได้รับมรดกในไทย มูลค่าถึงเกณฑ์ที่กำหนด คุณต้องเสียภาษีมรดก
ที่สำคัญ ภาษีมรดกไม่ได้แค่คำนวณมูลค่าทรัพย์สินในไทยเท่านั้น แต่รวมถึงทรัพย์สินในต่างประเทศที่ผู้รับได้รับด้วย ส่วนอัตราภาษีแบ่งเป็นสองแบบ คือ ผู้รับมรดกเป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานต้องเสีย 5% หากเป็นบุคคลอื่นต้องเสียภาษี 10%
หลายคนสงสัยว่ามีทรัพย์สินบางประเภทที่ได้รับยกเว้นภาษีไหม มีครับ เช่น ทรัพย์สินที่ส่งมอบก่อนกฎหมาย ภาษีมรดก 2567 มีผลบังคับใช้ หรือทรัพย์สินที่ใช้ในกิจการสาธารณะ หรือโอนให้หน่วยงานราชการ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคที่ใช้วางแผนภาษีเพื่อช่วยลดภาระ เช่น การโอนทรัพย์สินทีละน้อยในขณะที่ยังมีชีวิต
การรู้ว่าใครบ้างต้องเสียภาษีมรดกและมีเงื่อนไขอย่างไร จึงช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดี ไม่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีอย่างไม่ทันตั้งตัว
ภาษีมรดก เวลาและกรอบระยะเวลาที่ต้องยื่นคือเมื่อไร?
ผู้รับมรดกต้องยื่นแบบ ภาษีมรดก ภายใน 120 วัน หลังจากได้รับมรดก ถ้าส่งแบบล่าช้าจะโดนเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามกฎหมาย ดังนั้น ต้องรีบยื่นให้ทันเวลาครับ
หากไม่ยื่นภายในเวลาที่กำหนด อาจถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มจากภาษีที่ค้างชำระ และมีโทษตามกฎหมาย เช่น ปรับเงินหรือจำคุกได้ ดังนั้นอย่าละเลยเรื่องนี้เด็ดขาด เพราะค่าเสียหายจะสูงกว่าแค่ภาษีที่ต้องจ่าย
ถ้าคุณไม่แน่ใจเรื่องวิธียื่นหรือคำนวณภาษี สามารถขอคำปรึกษาจากกรมสรรพากร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีได้ เพื่อให้ถูกต้องและปลอดภัยทางกฎหมาย
นอกจากนี้ ภาษีมรดกยังเปิดโอกาสให้ผู้รับมรดกขอผ่อนชำระภาษีได้สูงสุด 5 ปีด้วย แต่หากชำระหมดภายใน 2 ปีแรก จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม ถือเป็นสิทธิที่ช่วยลดภาระทางการเงินสำหรับคนที่ได้รับมรดกจำนวนมาก
สรุปคือ ต้องยื่นแบบภาษีมรดกภายใน 120 วัน หลังได้รับมรดก เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและโทษทางกฎหมาย และสามารถขอผ่อนชำระภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้
ภาษีมรดก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผมแนะนำให้ทุกคนศึกษาไว้ดีๆ หากคุณกำลังจะรับมรดกหรือวางแผนเรื่องมรดกในอนาคต การเข้าใจเรื่องภาษีและวิธีจัดการล่วงหน้าจะช่วยประหยัดเงินและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ครับ
ภาษีมรดก คืออะไรและใครบังคับชำระ?
ภาษีมรดก คือ ภาษีที่ต้องชำระเมื่อคุณได้รับมรดกจากผู้เสียชีวิต มรดกที่ได้รับ มีมูลค่าสูงถึงหรือเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องเสียภาษีนี้ ภาษีมรดกเก็บจากผู้รับมรดก ไม่ใช่จากผู้เสียชีวิตโดยตรง
ใครบังคับชำระ คนที่รับมรดกนั้นไม่ว่าจะเป็นบุตร ลูกหลาน หรือทายาทคนอื่นๆ รวมทั้งนิติบุคคลที่ได้มรดก ก็ต้องจ่ายภาษีนี้ด้วย ส่วนผู้รับมรดกจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ก็ต้องชำระถ้ามีทรัพย์สินในประเทศไทย ภาษีนี้จึงเป็นภาระของผู้รับ ไม่ใช่ของเจ้าบ้านหรือผู้เสียชีวิต
ทรัพย์สินที่ต้องนำมาคำนวณภาษี ประกอบด้วย บ้าน ที่ดิน รถยนต์ เงินฝากธนาคาร หลักทรัพย์ และทรัพย์สินทางการเงินอื่นๆ ทั้งที่อยู่ในไทยและต่างประเทศ แต่บางทรัพย์สินได้รับยกเว้น เช่น มรดกที่ส่งมอบก่อนกฎหมายภาษีมรดกบังคับใช้ หรือทรัพย์สินที่ใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เช่น อาคารของรัฐบาล หรือพิจารณา ภาษีบ้านหลังแรก
หากผู้รับมรดกยังไม่ยื่นเสียภาษีภายใน 120 วันหลังได้รับมรดก จะมีค่าปรับและดอกเบี้ยตามกฎหมาย ถ้าหลีกเลี่ยงการชำระหรือยื่นข้อมูลเท็จ ก็อาจโดนโทษปรับหรือจำคุกได้ ภาษีมรดกจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องรีบทำความเข้าใจและดำเนินการให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ ผู้รับมรดกสามารถขอผ่อนชำระภาษีได้ไม่เกิน 5 ปี ถ้าชำระหมดภายใน 2 ปีแรก จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ถือเป็นทางเลือกช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภาษี
ผมแนะนำให้ใครได้รับมรดก มีความรู้เรื่อง ภาษีมรดก ให้ชัดเจน เพื่อวางแผนและบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต และใช้สิทธิต่างๆ ที่กฎหมายให้ไว้ถูกต้องตามสิทธิ์ของคุณ
ภาษีมรดก คืออะไรและใครบังคับชำระ?
ภาษีมรดก คืออะไร?
ภาษีมรดก คือภาษีที่เก็บจากผู้รับมรดกเมื่อมูลค่าทรัพย์สินเกิน 100 ล้านบาท ภาษีนี้จะเรียกเก็บตามกฎหมาย ภาษีมรดก 2567 ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ผู้รับมรดกที่ได้รับมูลค่าเกินกว่ากำหนด ต้องเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดไว้ คนที่รับมรดกเป็นบุพการีหรือลูกหลานจะเสียภาษี 5% ส่วนบุคคลอื่นเสีย 10% ภาษีนี้ครอบคลุมทั้งทรัพย์สิน เช่น ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เครดิตภาษีเงินปันผล รถยนต์ เงินฝาก และหลักทรัพย์ รวมทั้งทรัพย์สินทางการเงินอื่นๆ ด้วย
ใครบังคับชำระภาษีมรดก?
ผู้บังคับชำระภาษีมรดกคือผู้รับมรดก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มีทรัพย์สินในประเทศไทย หรืออยู่ในประเทศไทยต้องชำระภาษีนี้ ผู้รับมรดกต้องยื่นแบบภาษีและชำระภายใน 120 วัน หลังวันที่รับมรดก หากไม่ทำตามกำหนด จะมีโทษค่าปรับและดอกเบี้ยเพิ่มตามกฎหมาย ภาษีนี้จึงมีผลบังคับอย่างเข้มงวดและต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ
ภาษีมรดก กฎหมายและการคำนวณ
หลักการวิธีคำนวณภาษีจะใช้มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้รับมรดกรวมทั้งในและต่างประเทศ หากมูลค่ารวมเกิน 100 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด การคำนวณภาษีต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายที่ถูกต้อง เช่น หนี้สินที่ติดกับทรัพย์สินนั้นๆ เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมมากที่สุด
ภาษีมรดกกับการวางแผนเพื่อประหยัดภาษี
ผมมองว่าการวางแผนภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเจ้าของทรัพย์สิน ผู้รับมรดกควรศึกษาข้อยกเว้นภาษีมรดก เช่น การส่งมอบทรัพย์สินก่อนกฎหมายมีผล หรือให้ทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อช่วยลดภาระภาษี นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งมรดกทีละน้อยเพื่อไม่ให้อยู่ในช่วงที่ต้องเสียภาษี สูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยลดการจ่ายภาษีครั้งใหญ่
การทำความเข้าใจกฎหมาย ภาษีมรดก และรู้ว่าใครบังคับชำระเป็นก้าวแรกที่ดี ผมแนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดเสมอ เพราะกฎหมายภาษีอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าและวางแผนอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองเสมอครับ
ภาษีมรดก คืออะไรและใครบังคับชำระ?
ภาษีมรดก คือ ภาษีที่รัฐเก็บจากทรัพย์สินที่คุณได้จากการรับมรดก หากมูลค่าสินทรัพย์เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป คุณจะต้องชำระภาษีนี้ การเก็บภาษีนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ภาระทางการเงินเป็นธรรม และช่วยกระจายรายได้สู่สังคม
ภาษีมรดกจะเก็บจากมูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่คุณได้รับทั้งหมด เช่น ที่ดิน บ้าน เงินฝากในธนาคาร ยานพาหนะ หรือหลักทรัพย์อื่นๆ กฎหมายภาษีมรดกระบุไว้ว่าคนที่ต้องชำระภาษีคือผู้รับมรดก ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือบุคคลอื่นๆ ก็ตาม
ถ้าคุณเป็นผู้รับมรดกที่เป็นบุพการีหรือเป็นลูกหลาน คุณจะจ่ายภาษีในอัตรา 5% แต่ถ้าผู้รับมรดกไม่ใช่ญาติใกล้ชิด จะเสียภาษีในอัตรา 10% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับ นอกจากนี้ หากสินทรัพย์ที่ได้รับนั้นมีมูลค่าน้อยกว่า 100 ล้านบาท คุณไม่ต้องจ่ายภาษีมรดก
บางสินทรัพย์ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น ทรัพย์สินที่โอนในช่วงก่อนกฎหมายภาษีมรดกบังคับใช้ หรือทรัพย์สินที่ให้แก่หน่วยงานของรัฐและเปลี่ยนใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
สำคัญมากที่คุณต้องรู้ว่า ภาษีมรดกครอบคลุมทั้งผู้รับที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติที่มีทรัพย์สินในประเทศไทย ไม่ว่าผู้รับจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตาม ดังนั้น หากคุณได้รับมรดกจากต่างประเทศที่มีทรัพย์สินในไทย ก็อาจติดภาระภาษีนี้ได้เช่นกัน
การคำนวณภาษีมรดกจะพิจารณาที่มูลค่ารวมทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งในและต่างประเทศในช่วงเวลาที่คุณได้รับมรดก ซึ่งหมายความว่า คุณต้องแจ้งข้อมูลอย่างครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อให้กรมสรรพากรคำนวณภาษีได้อย่างถูกต้อง
หากคุณสงสัยว่า ภาษีมรดกเสียเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สินและความสัมพันธ์กับผู้ให้มรดก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 5% หรือ 10% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดที่ได้รับ ภาษีนี้จะกลายเป็นภาระสำคัญที่คนรับมรดกต้องเตรียมรับมือ
ทรัพย์สินอย่างที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนสำคัญที่ต้องเสียภาษีมรดก เพราะมีมูลค่าสูง และต้องประเมินราคากับกรมที่ดิน เพื่อนำมาคำนวณภาษีอย่างถูกต้อง
สรุปได้ว่า ภาษีมรดกคือสิ่งที่คุณต้องรู้เมื่อได้รับทรัพย์สินจากการสืบทอด กฎหมายภาษีมรดกบังคับให้ผู้รับมรดกจ่ายเมื่อมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท และภาระภาษีขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับและผู้ให้มรดก รวมถึงประเภทของทรัพย์สินที่ได้รับ
ภาษีมรดก
ภาษีมรดก คำถามยอดนิยม ภาระเริ่มต้นเมื่อใดและต้องจ่ายเท่าไหร่
ภาษีมรดก คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากผู้รับมรดกเมื่อมูลค่ารวมของทรัพย์สินที่ได้รับเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป คุณต้องจ่ายภาษีนี้หากได้รับมรดกที่มีมูลค่าเกินกว่าจำนวนนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน เงินฝาก หรือทรัพย์สินรูปแบบอื่น ๆ
ถามว่า ภาษีมรดก กี่เปอร์เซ็นต์ต้องจ่าย สำหรับผู้รับมรดกที่เป็นพ่อแม่ ลูก หรือลูกหลาน อัตราภาษีคือ 5% ของมูลค่ามรดกที่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนผู้รับคนอื่นนอกกลุ่มนี้ อัตราภาษีจะเป็น 10% ของมูลค่าที่เกิน 100 ล้านบาท
แล้วภาระการจ่ายภาษีเริ่มเมื่อไร คุณต้องยื่นแบบภาษีและชำระภาษีมรดกภายใน 120 วันหลังจากวันที่ได้รับมรดก หากช้าอาจถูกปรับเงินเพิ่ม และถ้ายังไม่ยื่นแบบภาษีจะมีโทษทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
ภายนอกนั้น กฎหมาย ภาษีมรดกยังบังคับให้ต้องรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศมาคำนวณด้วย ถ้าคุณเป็นผู้รับมรดกมีทรัพย์สินมากกว่า 100 ล้านบาท จะต้องแจ้งภาษีให้ครบถ้วนตามกฎหมาย
การเสียภาษีนี้ไม่เพียงแต่สำหรับบุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงนิติบุคคล หรือบริษัทที่ได้รับมรดกด้วย ทั้งนี้ต้องมีทรัพย์สินอยู่ในไทยหรือตนเองมีถิ่นที่อยู่ในไทย
ทรัพย์สินที่ถือว่าเป็นฐานภาษีมรดก ได้แก่ ที่ดิน บ้าน รถยนต์ หลักทรัพย์ เงินสด และสินทรัพย์อื่นตามกำหนดกฎหมาย
ถ้าคุณสงสัยว่า ภาษีมรดก เสียเท่าไหร่จริง ๆ ก็สำคัญที่ต้องจำไว้ว่าภาษีนี้คิดเฉพาะส่วนที่เกิน 100 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดของมูลค่ามรดก
ด้วยเหตุนี้ หากกำลังจะรับมรดกก้อนใหญ่ อย่าลืมตั้งใจวางแผนภาษีมรดกตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อช่วยบริหารภาระภาษีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
ภาษีมรดก กรณีศึกษาสั้น ๆ ตัวอย่างการคำนวณและผลลัพธ์จริง
สมมติว่าคุณได้รับมรดกเป็นบ้านและเงินสดรวมมูลค่า 120 ล้านบาท
-
หากคุณเป็นลูกที่ได้รับมรดกนี้ จะต้องจ่ายภาษีในส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท คือ 20 ล้านบาท
-
ด้วยอัตราภาษี 5% ภาษีมรดกที่ต้องชำระคือ 20 ล้านบาท × 5% = 1 ล้านบาท
แต่ถ้าคุณเป็นญาติหรือเพื่อนที่ไม่ใช่บรรพบุรุษหรือลูกหลาน จะต้องเสียภาษี 10% หรือ 2 ล้านบาท ในกรณีเดียวกันนี้
ในคำตอบนี้ ผมรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ กฎหมาย ภาษีมรดก ที่ช่วยให้คุณเข้าใจภาระและอัตราการเสียภาษีที่ต้องเจออย่างชัดเจน
นอกจากนี้ คนที่ได้รับมรดกมากกว่า 100 ล้านบาท ควรเรียนรู้taxrefundคือและวิธีขอเงินคืนภาษีเพื่อประโยชน์สูงสุดเมื่อมีเหตุจำเป็น
การรู้หลักการภาษีมรดกจะช่วยให้คุณเตรียมตัวดีขึ้นและบริหารทรัพย์สินที่ได้รับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ภาระภาษีนี้แม้จะฟังดูหนัก แต่ถ้าคุณวางแผนและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ทุกเรื่องราบรื่นขึ้นมาก
ผมแนะนำให้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ ภาษีมรดก 2567 เพราะกฎหมายอาจมีการปรับใหม่ในแต่ละปี
สุดท้าย การเข้าใจภาษีมรดกอย่างละเอียดคือก้าวแรกที่สำคัญ เพื่อคุณจะได้ปฏิบัติตามกฎหมายได้ถูกต้องและไม่พลาดโอกาสวางแผนภาษีอย่างชาญฉลาด
ภาษีมรดก คือเรื่องที่ควรใส่ใจตั้งแต่เริ่ม รับมือให้ถูกต้องช่วยลดปัญหาและความยุ่งยากในวันข้างหน้าได้ครับ
สรุปภาษีมรดก
ผม สรุป เรื่อง ภาษีมรดก ให้ เห็น ภาพ ชัด.
ผม บอก ว่า ภาษีมรดก คือ กฎหมาย ที่ จัดการ ทรัพย์สิน หลัง คน ตาย.
ผม เห็น ว่า มรดก ส่ง ผล ถึง ผู้รับ และ ทรัพย์สิน.
ผม ชี้ ใครบ้าง ต้อง ชำระ และ กรอบ เวลา ยื่น.
ผม อธิบาย วิธี คำนวณ และ อัตรา ปี 2567.
ผม แสดง ข้อยกเว้น พิเศษ และ แนว ทาง ลด ภาระ.
ผม แนะนำ เทคนิค วางแผน เพื่อ ลด ภาษี.
ผม หวัง คุณ ใช้ ความรู้นี้ ได้ผล จริง.