เครดิตเงินคืนคืออะไรและทำงานอย่างไร?
Key Takeaways:
- เครดิตเงินคืนคือ การได้เงินคืนจากการใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดเมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไข เช่น รับคืน 1% จากยอด 10,000 บาท จะได้เงินคืน 100 บาท
- ตัวเลือกบัตรที่มี เครดิตเงินคืนคือ รวมถึง Cash Back และ Cash Rebate ต่างให้เงินคืนแบบเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินคงที่
- บัตรเครดิตแบบเงินคืนเด่นในด้านประหยัดเงิน ถ้าซื้อของประจำหรือเติมน้ำมันบ่อยๆ จะคืนเงินมากขึ้น
- การใช้บัตรเครดิตอย่างมีระเบียบและไม่ใช้เกินกำลังจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
- บัตร KKP CASH CARD มีดอกเบี้ยต่ำ เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 10,000 บาท
- การเลือกบัตรที่มีเงื่อนไขและโปรโมชั่นทั้งต่างกันจะช่วยประหยัดได้จริง
เครดิตเงินคืนคืออะไร? หลายคนอาจไม่คุ้นเคย แต่รู้หรือไม่? มันคือหนึ่งในเครื่องมือการเงินที่สามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้จริง! อยากรู้ไหมว่าเครดิตเงินคืนทำงานอย่างไร และมีประโยชน์แบบไหน? ในบทความนี้ ฉันจะพาคุณเจาะลึกเรื่องนี้ ตั้งแต่ความหมายไปจนถึงเคล็ดลับการใช้งานที่คุ้มที่สุด ว่าแต่คุณพร้อมที่จะเปิดโปงข้อเท็จจริงของเครดิตเงินคืนแล้วหรือยัง? มาเริ่มกันเลย!
ความหมายของเครดิตเงินคืนคือ
เครดิตเงินคืนคือ สิ่งที่หลายคนพูดถึงกันบ่อย ๆ ในการใช้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด ข้อดีหลักคือ คุณจะได้รับเงินคืนเมื่อซื้อสินค้า กดเงินสด หรือใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เมื่อคุณใช้เงิน 10,000 บาท จะได้รับเครดิตเงินคืน เช่น 1% ก็จะได้คืนกลับมา 100 บาทในรอบบิลถัดไป
เชื่อว่าการได้รับเครดิตคืนเงินแบบนี้อาจดูเล็กน้อย แต่หากใช้ประโยชน์ได้ทุกการซื้อ แต่ละเดือนสามารถสะสมเป็นจำนวนที่น่าพอใจ ตัวอย่างเช่น การซื้อของใช้ในบ้านหรือการเติมน้ำมันที่คุณต้องใช้บ่อย ๆ ทำให้คุณมีเงินคืนสะสมที่มากขึ้น
เครดิตเงินคืนนี้มีความสำคัญเพราะเป็นส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายของเรา อีกทั้งยังได้รับประโยชน์เพิ่มเติมเมื่อใช้บัตรในการซื้อสินค้าหรือบริการ อย่างไรก็ตาม ควรระวังในการใช้จ่ายเกินความจำเป็นและศึกษารายละเอียดเงื่อนไขให้ดี
ประเภทของเครดิตเงินคืนคือและวิธีการทำงาน
เครดิตเงินคืนคือการที่เราได้รับเงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรต่างๆ ที่บัตรจัดโปรโมชั่นไว้ เรามักจะเห็นข้อเสนอเกี่ยวกับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดที่เราใช้บ่อยๆ มีหลายประเภทของเครดิตเงินคืน เช่น Cash Back และ Cash Rebate
เครดิตเงินคืนคือ
คำว่า Cash Back หมายถึงเงินคืนที่เราจะได้รับเมื่อใช้จ่ายกับบัตรที่ร่วมรายการ บางบัตรอาจให้เงินคืนเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดซื้อ บางบัตรอาจมีจำนวนเงินที่แน่นอนคืนให้ เช่น 1% ของยอดซื้อ หรือคืนเงิน 100 บาทเมื่อใช้จ่ายครบ 1,000 บาท ต่อบิล ส่วน Cash Rebate ในบางบัตรจะเป็นการคืนเงินในรูปแบบของการลดราคาสินค้าในครั้งถัดไป
วิธีการทำงานของ cash back คือเมื่อเราใช้จ่ายครบตามเงื่อนไข เช่น การเติมน้ำมัน การซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต และอื่นๆ เงินคืนจะถูกโอนกลับเข้ามาในรอบบิลถัดไป นอกจากนี้ บางบัตรอาจมีเงื่อนไขที่ซับซ้อน เช่น การต้องสมัครเข้าร่วมโปรโมชัน หรือการต้องทำการใช้จ่ายในหมวดหมู่ที่กำหนดถึงจะได้รับเงินคืนแบบเต็มรูป
วิธีการใช้งานเพื่อให้ได้รับเครดิตคืน
เพื่อให้ได้รับเครดิตเงินคืนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรศึกษารายละเอียดของโปรโมชันบัตรเครดิตนั้นๆ เสมอ พวกเราอาจใช้เทคนิคสะสมหลายโปรโมชันในบัตรเดียวกันเพื่อเพิ่มยอดเงินคืนที่ได้รับ ทั้งนี้ ควรระวังในการใช้จ่ายไม่ให้เกินจากที่สามารถชำระได้ในแต่ละเดือน
เงินคืนจากการใช้บัตรเครดิตอาจทราบว่าจะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่เมื่อรวมๆ กันทุกเดือน ก็นับเป็นข้อดีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้
ความแตกต่างของบัตรเครดิตเงินคืนคือกับบัตรเครดิตสะสมคะแนน
บัตรเครดิตเงินคืนคืออะไร? บัตรนี้คือที่คุณจะได้เงินคืนจากการใช้จ่าย คุณจะได้รับเครดิตคืนในรอบบิลถัดไป เช่น คุณกดเงิน 10,000 บาท แล้วได้คืน 100 บาท แบบสะสมคะแนนจะให้แต้มแทนเงินคืน คุณใช้พวกแต้มแลกของรางวัลได้
เมื่อไหร่ควรเลือกบัตรเครดิตเงินคืน
ถ้าคุณซื้อของซ้ำๆ ใช้บัตรเครดิตเงินคืนคือเลย มันรวมเงินได้เยอะจากของพื้นฐาน เช่น ของใช้ในบ้านหรือเติมน้ำมัน ถ้าคุณชอบเก็บคะแนนแลกของ บัตรสะสมคะแนนดีกว่า
ความคุ้มค่าในการใช้บัตรทั้งสองแบบ
บัตรเงินคืนคือมักมีค่าเงื่อนไขที่ใช้ได้จริง แต่บัตรสะสมคะแนนอาจต้องใช้จ่ายมากเพื่อได้ของรางวัล ควรดูความต้องการของตัวเองก่อนเลือกบัตร
ข้อดีข้อเสียของบัตรเครดิตเงินคืนและสะสมคะแนน
บัตรเครดิตเงินคืนใช้ง่ายและได้เงินกลับ แต่ต้องระวังใช้เกินกำลังจ่าย บัตรสะสมคะแนนเหมาะกับคนที่ซื้อบ่อยๆ และสะสมแต้มกันยาว อย่าใช้เกินตัว การรู้เงื่อนไขจะช่วยให้เลือกได้ดีขึ้น
เคล็ดลับในการใช้บัตรเครดิตเงินคืนให้คุ้มค่าที่สุด
เครดิตเงินคืนคือ เครื่องมือดีๆ ที่สร้างความคุ้มค่าให้เรา หากเราใช้บัตรเครดิตทุกวัน สำรวจข้อครอบคลุมของเครดิตเงินคืน ช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เช่น หากเราได้รับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อกด 10,000 บาท ในรอบบิลถัดไป รับกลับ 100 บาทง่ายๆ ทั้งนี้ ดีที่สุดคือให้จับจ่ายใช้กับสิ่งที่จำเป็น เช่น ของใช้ในบ้าน
อย่าลืมใช้เครดิตเงินคืนที่ร่วมโปรโมชั่น เริ่มจากรู้จักเทคนิคและเงื่อนไขของบัตรเลือกใช้ ควรระวัง อย่ากดเยอะจนเกินตัว และเรามั่นใจได้ว่าเราจะจ่ายคืนเมื่อครบกำหนด รักษาความมั่นใจในการจ่ายคืน สะสมเครดิตคืนบ่อยๆ ดีกว่า
การเลือกบัตรเครดิตเงินคืนให้เหมาะกับสไตล์การใช้จ่ายของคุณ
การเลือกบัตรเครดิต เครดิตเงินคืนคือ ก้าวสำคัญที่จะช่วยประหยัดเงิน ผมเข้าใจว่าคุณอยากได้ประโยชน์สูงสุดจากซื้อของประจำวัน เลือกบัตร cash back ที่ตรงกับคุณได้ดีที่สุด สำคัญครับ มาดูกันว่าควรเลือกอย่างไรบ้าง
เทียบเปรียบเทียบบัตรเครดิตเงินคืน
เมื่อพูดถึง เครดิตเงินคืนคือ บัตรแต่ละใบมีข้อเสนอแตกต่างกัน ผมแนะนำให้เปรียบเทียบบัตรต่างๆ ที่มี ควรเปรียบเทียบข้อเสนอที่ให้เงินคืนจากแต่ละบัตร เช่น เงินคืนจากการเติมน้ำมัน จะต่างกันไป ตามบัตรและเงื่อนไข
บางบัตรอาจมีโปรโมชั่น เครดิตเงินคืนคือ ในบางร้านค้าเป็นระยะ คุณควรตรวจสอบสิ่งนี้เสมอ เพราะมันช่วยประหยัดได้จริง การเลือกบัตรที่มีโปรโมชั่นสำหรับบัตรผ่อนสินค้าในร้านที่คุณใช้ประจำจะคุ้มค่ากว่าอย่างแน่นอน
ปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเลือกบัตร
อีกเคล็ดลับที่ผมอยากแนะนำคือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกบัตรที่ตอบโจทย์กับพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณเอง บัตรที่ดีควรมีค่าธรรมเนียมน้อย หรือไม่มีเลย และอย่าลืมดูว่าเงื่อนไขการใช้ เครดิตเงินคืนคือ ง่ายหรือไม่
ความเข้าใจในเงื่อนไขของ เครดิตเงินคืนคือ สำคัญ คุณควรอ่านรายละเอียดทั้งหมดก่อนสมัคร หลายคนพลาดจุดนี้ครับ เงื่อนไขของเงินคืน อาจจะต้องมียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ หรือจำกัดเงินคืนในแต่ละรอบ คุณต้องดูแล้วว่าเหมาะสมกับคุณหรือไม่
เมื่อคุณเข้าใจ เครดิตเงินคืนคือ และรู้ว่าบัตรไหนเหมาะกับคุณ มันจะช่วยให้คุณใช้จ่ายอย่างประหยัดและฉลาด
ข้อดีและข้อเสียของบัตรเครดิตเงินคืนคือ
บัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืนมีข้อดีมากมาย หลายคนอาจบอกว่า ข้อดีของบัตรเครดิตเงินคืน คือช่วยประหยัด การซื้อสินค้าผ่านบัตรและการได้คืนเป็นเงินสด ช่วยลดค่าใช้จ่าย ลองนึกดู คุณซื้อของทุกวันและได้รับคืนมา เงินนั้นช่วยในอนาคต
แต่ฝั่งข้อเสียก็มี สิ่งแรกที่ควรรู้คือ ความเสี่ยงในการใช้จ่ายเกินตัว แม้โปรโมชั่นจะดี แต่หากจับจ่ายเกินกำลัง อาจเกิดปัญหาหนี้สิน ใช้บัตรอย่างระวัง อย่ายืดหยุ่นเกินตัวจนจ่ายไม่ไหว
เหตุผลหลักคือโปรโมชั่นเครดิตเงินคืนมักมีเงื่อนไข เช่น เครดิตเงินคืนคือ กดเงินสด 10,000 บาทได้คืน 1% เราต้องรู้เงื่อนไขนี้ รายละเอียดโปรโมชั่นมีเสมอ อ่านให้รอบคอบ
อีกอย่าง คือการประหยัดเงินคืน ดูน้อยในบางครั้ง แต่เมื่อรวมกันทุกครั้งที่ใช้งาน เช่น ซื้อของใช้ ค่าน้ำมัน เพิ่มเงินคืนต่อเดือนได้
บัตรเครดิตเงินคืนที่นิยมในตลาดพร้อมเงื่อนไข
เครดิตเงินคืนคือเมื่อบัตรเครดิตให้เงินคืน หลังทำรายการตามเงื่อนไข บัตรเครดิต cash back ที่นิยม 5 รายมีโปรโมชั่นต่างกัน บัตรเครดิตส่วนใหญ่มีข้อเสนอพิเศษ เช่น ส่วนลดร้านค้า เงินคืนตามยอดหรือสะสมคะแนน
เงินคืนจากวงเงินที่คุณใช้ต่อรอบบิล บางบัตรคืน 1% เมื่อใช้จ่ายถึงยอดเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณกดเงินสด 10,000 บาท คุณได้รับเงินคืน 100 บาท
บัตรเครดิตบางตัวมีเงื่อนไขการกดเงินสดพร้อมดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้ยังทำโปรโมชั่นเงินคืนได้รายเดือน ด้วยการใช้ซื้อประจำ เช่น สินค้าในบ้าน
ควรดูข้อเสนอของแต่ละบัตรเพื่อการเปรียบเทียบ และอ่านเงื่อนไขอย่างละเอียดเสมอ บัตรคือเครื่องมือ ถ้าใช้ดีมีประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่ระวังอาจทำให้การเงินหมุนเวียนติดขัด
สรุปเครดิตเงินคืนคือ
เครดิตเงินคืนคือทางที่ดีเพื่อประหยัดเงินในการใช้จ่ายประจำวัน คุณต้องเข้าใจหลักการทำงานก่อนเลือกใช้ต้องทราบประเภทต่างๆ เช่น Cash Back และ Cash Rebate รวมถึงข้อดีข้อเสียเมื่อเทียบกับบัตรเครดิตสะสมคะแนน เทคนิคการใช้บัตรให้เกิดประโยชน์สูงสุดช่วยลดความเสี่ยงและหาบัตรที่ตรงกับความต้องการ การเลือกบัตรที่ดีที่สุดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการเงิน เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับทุกการใช้จ่ายของคุณ